รีวิวหนังThe Power of the Dog

เชื่อว่าหลายๆคน รู้ว่า เน็ตฟลิก มีหนังหลายเรื่องเลยนะที่พอเริ่มโปรโมตก็ชักชวนให้เราเฝ้าติดตามว่าเมื่อไหร่หนังจะเข้าฉายในแบบสตรีมมิ่ง แม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังแมสหนังตลาด แต่ด้วยชื่อชั้นของผู้กำกับและนักแสดง อย่างน้อยก็เป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ทำให้เชื่อมั่นว่าจะได้รับชมหนังที่ดี และเมื่อวันนั้นมาถึง

ผมก็ได้ ดูหนังออนไลน์ ที่อดใจรอชมอย่างหนัง ‘The Power of the Dog’ แต่กว่าจะได้มีช่องว่างให้เขียนถึง ก็ต้องรอต่อมาอีกหลายวัน และเรารู้ดีว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะสนใจอ่าน ไม่ใช่หนังที่คนส่วนใหญ่จะสนใจดู และไม่ใช่หนังที่คนลองเปิดมาดูแล้วจะรู้สึกชอบมันไปเสียทุกคน

ส่วนหนังเรื่องนี้ได้ผู้กำกับมือดีที่ทำหน้าที่ทั้ง เขียนบทและกำกับการแสดงเองอย่าง เจมส์ แชมป์ ยอดผู้กำกับหญิงจากนิวซีแลนด์ มือระดับรางวัลออสการ์ที่เคยคว้ารางวัลบทยอดเยี่ยมและเข้าชิงสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมมาจาก ‘The Piano’ ในปี 1993 หลังห่างหายจากการกำกับหนังมานานหลายปี ปีนี้ เธอกลับมาอีกครั้ง

รีวิวหนังThe Power of the Dog สนุก

รีวิวหนังThe Power of the Dog เรื่องย่อ

The Power of the Dog เต็มเรื่อง มันเป็นเรื่องรวการใช้ชีวิตของคนสมัยก่อนโดนที่หนังจะเล่าเรื่องของ เรื่องของ Phil Burbank หนุ่มชาวไร่จอมบงการ ที่ใช้ชีวิตเป็นเจ้าของไร่และนาร่วมกับน้องชาย George Burbank มานานกว่า 25 ปี ตั้งแต่ปี 1900 ที่พวกเขาเริ่มต้นมันด้วยกัน จนวันนี้ ความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีสมาชิกใหม่จะเข้ามาร่วมชายคา

Rose Gordon หญิงสาวที่สูญเสียสามีไป เธอกลายเป็นหม้ายและดำรงชีวิตด้วยการเป็นเจ้าของร้านอาหารกับปีเตอร์ (Kodi Smit-McPhee จากหนังเรื่อง Alpha, X-Men: Apocalypse และ Dawn of the Planet of the Apes) ลูกชายรูปร่างผอมบางและท่าทีแตกต่างจากชายชาตรีในความคิดของฟิล

เมื่อพระเอกได้พาตัวนางเอกเข้ามาบ้านในฐานะภรรยา ฟิลก็เริ่มออกตัวคุกคามหญิงผู้มาใหม่ แถมยังทำตัวเขม่นและข่มลูกชายของเธอ เด็กหนุ่มที่มีงานอดิเรกไม่เหมือนใคร และเรื่องราวบางอย่างที่เก็บซ่อนไว้มานานกำลังจะถูกเปิดเผย ไปติดตามชมกันได้ที่ ดูหนังฟรี

รีวิวหนังThe Power of the Dog น่าดู

รีวิวหนังThe Power of the Dog นักแสดง

เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ รับบท ฟิล เบอร์แบงก์ ,เคิร์สเทน ดันสต์ รับบท โรส กอร์ดอน ,เจสซี่ เพลมอนส์ รับบท จอร์จ เบอร์แบงก์ ,Kodi Smit-McPhee รับบทเป็น Peter Gordon

Thomasin McKenzie รับบทเป็น โลล่า ,เจเนวีฟ เลมอน รับบท นางลูอิส ,คีธ คาร์ราดีน รับบท ผู้ว่าการเอ็ดเวิร์ด ,ฟรานเซส คอนรอย รับบทเป็น หญิงชรา เบอร์แบงก์

ปีเตอร์ แคร์โรลล์ รับบทเป็น คนแก่ เบอร์แบงก์ ,อลิสัน บรูซ รับบท ภรรยาผู้ว่าการเอ็ดเวิร์ด ,อลิสแตร์ ซีเวลล์ รับบท จ็อค ,โคเฮน ฮอลโลเวย์ รับบท บ็อบบี้

ฌอน คีแนน รับบท สเวน ,อดัม บีช รับบท เอ็ดเวิร์ด แนปโป ,Maeson Stone Skuggedal รับบทเป็น ลูกชายของ Edward Nappo ,อลิซ เองเลิร์ต รับบท บัสเตอร์

รีวิวหนังThe Power of the Dog บทวิจารณ์

The Power of the Dog พากย์ไทย ดูแล้วถึงหนังจะเป็นหนังในยุคของคาวบอย แต่ก็ไม่ไำด้มีฉากที่ดวลปืนกันในแบบฉบับของหนังคาวบอยเรื่องอื่นๆ ย้อนเวลากลับไปที่มอนทาน่าในปี 1925 ช่วงที่ภาพเบื้องหลังของมันคือภาพที่คุ้นเคยในหนังแนวนี้ แต่หนังหันมาเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวหนึ่ง สามารถชมได้ที่ รีวิวหนังรักฝรั่ง

พี่น้องที่มีนิสัยใจคอแตกต่างกันแทบจะสิ้นเชิง ฟิล พี่ชายที่ดูจะหมกมุ่นอยู่กับความคิดในแบบผู้ชาย แต่ดูจะค่อนข้างเป็นไปในทางเหยียดเพศหญิง มีนิสัยไม่ชอบอาบน้ำ ช่ำชองในการเล่นแบนโจพอตัว มีชายคนหนึ่งที่ชื่อ บรองโก้ เฮนรี่ เป็นเหมือนไอดอล รับช่วงต่อกิจการดูแลไร่ที่ได้รับมาจากพ่อร่วมกับน้องชาย

จอร์จ ชายร่างอวบกว่าแต่ก็มีนิสัยที่อ่อนโยนกว่า เป็นน้องชายที่พี่ชายมักเอ่ยวาจาดูแคลนอยู่บ่อยๆ ในช่วงเวลานั้น โรคแอนแทรกซ์ทำวัวตายไปหลายตัว และพวกเขาก็ค่อนข้างระแวดระวังเป็นอย่างดี

อีกด้านหนึ่ง คือ ครอบครัวที่เหลือเพียงแม่กับลูกชาย โรส กอร์ดอน ที่สูญเสียสามีไปและดูแลร้านอาหารโดยมีลูกชายคอยเป็นลูกมือ ปีเตอร์เป็นเด็กหนุ่มรูปร่างผอมสูงที่ชื่นชอบในงานศิลปะซึ่งดูจะผิดแผกจากค่านิยมความเป็นชายในยุคสมัยนั้น โดยเฉพาะในสายตาของฟิล เบอร์แบงก์

แต่แล้วปัญหาก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อน้องชายของเขาได้แต่งงานกับโรส พาเธอและลูกชายย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกัน แม่กับเด็กหนุ่มที่ถูกฟิลดูถูกตลอดเวลา เมื่อต้องมาอยู่ร่วมบ้าน แม่กับลูกมีวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน โรสเลือกหันเข้าหาเหล้าจนติดหนัก ขณะที่ปีเตอร์ดูจะเหมือนจะยืดหยุ่นกว่า

บทสนทนาที่เผยให้เห็นความดูถูกเหยียดเพศหญิงและถากถางความไม่เป็นชายชาตรีในแบบที่ฟิลนึกคิด ทั้งคำพูดและการกระทำล้วนกรีดแทงใจโรสจนเธอรับไม่ไหว เครียดหนักจนต้องพึ่งพาเหล้า คนดูอย่างเราเข้าใจความรู้สึกของโรส จิตใจเธออาจอ่อนไหวเกินกว่าจะรับมือ เพราะไม่ใช่แค่ฟิลที่ทำเธอเจ็บปวด แม้แต่คนในหมู่บ้านเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอทุกข์ใจ บทนี้ Kirsten Dunst ถ่ายทอดเอาไว้ได้ดี ไปชมกันได้ที่ รีวิวหนังรักฝรั่งน่าดู

ความรู้สึกหลังดูหนังThe Power of the Dog

ขณะที่ นักแสดงนำของเรื่องนี้ ทำหน้าที่ได้ดี เพราะเขาโดดเด่นมากกับบทของผู้ชายที่เบื้องหน้าดูแข็งแกร่ง หากหลบซ่อนบางที่อ่อนแอสิ่งไว้ข้างใน การกระทำที่แข็งกระด้างนั้นเป็นเพียงฉากหน้าที่ฉาบทาความรู้สึกเบื้องหลังที่ไม่ต้องการให้ใครเห็น เขาส่งผ่านสีหน้าแววตาของคนที่ซับซ้อน ขัดแย้งในตัวเอง และถ่ายทอดมันออกมาได้อย่างหมดจด

ขณะที่ ด้านลูดติดของโรสก็ ทำหน้าที่ของเขาได้ดีอีกคนเช่นกัน การแสดงของเขาทำให้ดูเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ทว่าเกิดในยุคสมัยที่ไม่มีใครเปิดรับ แต่ก็นั่นแหละ ด้วยบุคลิกของเขา มันกลายเป็นข้อได้เปรียบ เพราะข้างในของเขามันเข้มแข็งกว่าที่เห็นมากมายนัก สามารถติดตามต่อได้ที่ รีวิวหนังรักฝรั่งน่าสนใจ

เรื่องของหนัง The Power of the Dog ที่มีการดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆ ช้าๆ แต่ดูแล้วก็ไม่รู้สึกเบื่อ ระหว่างนั้นก็ปล่อยให้คนดูได้เฝ้ามองใบหน้า แววตา ภาษากายของตัวละครต่างๆ บางครั้งก็เก็บภาพของสิ่งมีชีวิต (เช่น ม้า) และสิ่งไม่มีชีวิต (เช่น ภูเขา) มาสลับไป หลายหนที่หนังแทรกด้วยฉากของการกระทำ ไร้ซึ่งคำพูด แต่บอกใบ้บางอย่างเอาไว้ ให้เราผู้ชมค่อยๆ เก็บเกี่ยวเหตุการณ์ ก่อนจะไปเฉลยเอาในตอนท้าย

หนังเรื่องนี้ พยายามจะสื่อให้เราได้รู้ว่า คนที่ภายนอกดูแข็งกระด้างและใช้วาจาเสียดแทงทำร้ายคนหนึ่งนั้น แท้จริงเขาอาจต้องการปกปิดความจริงที่อยากเก็บซ่อนอยู่ก็ได้ อีกข้อก็คือ การเป็นคนแปลกในสังคมอาจต้องรู้จักวิธีในการตอบโต้ การถูกสังคมทำร้ายให้ต้องเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา หนทางที่ทำได้ อาจเป็นการทำตัวให้เหมือนคนไม่มีพิษมีภัย ปล่อยเวลาให้ทำงานของมันไป แต่เมื่อถึงเวลาเมื่อไหร่ การตอบแทนที่สาสมจะบังเกิดขึ้น!

ข้อมูลของหนังThe Power of the Dog

ชื่อภาพยนตร์ The Power of the Dog / อำนาจบาดเลือดแค้น

ผู้กำกับ Jane Campion

ผู้เขียนบท Jane Campion, Thomas Savage (based on the novel by)

นักแสดง Benedict Cumberbatch, Kirsten Dunst, Jesse Plemons, Kodi Smit-McPhee

แนว/ประเภท Drama, Romance, Western

เรท R

ความยาว 126 นาที

ปี 2021

เข้าฉายในไทย 1 ธันวาคม 2021

ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย See-Saw Films, Brightstar, Max Films International, BBC Films, Cross City Films, New Zealand Film Commission