รีวิวซีรีย์ The Good Doctor

มาเจอกันอีกแล้วนะครับ ช่วงนี้ว่างมากไม่รู้จะทำไรเลยเปิด ดูหนังออนไลน์ ไปเจอซีรีย์สนุกเกี่ยวกับหมอ จนวันนี้ผมกฌดูจนจบแล้ว เลยอยากจะมาแบ่งปันความสนุกให้ท่านผู้ชมได้รับชมกัน ขอเขียนบทรีวิวของ ‘The Good Doctor’ ซีรีส์คุณหมอที่เป็นโรคออทิสติกครับ

ไม่ใช่ซีรีย์ที่มาใหม่อะไร แต่เป็นการซื้อลิขสิทธิ์ของซีรีย์แล้วมาทำการสร้างใหม่ในแบบฉบับของฝรั่ง ซีรีส์เรื่องนี้เริ่มต้นที่เกาหลีในชื่อ ‘Good Doctor’ พวกเขาเคยสร้างไว้ในปี 2013 โดยมี Joo Won และ Moon Chae Won แสดงนำ และก็ไม่ได้มีแค่เวอร์ชันอเมริกา หากยังมีเวอร์ชันญี่ปุ่นตามมาในปี 2018 ด้วย

โดยซีรีย์จะพาเราไปดูเรื่องราวในวงการแพทย์ โดยถ่ายทอดหลายๆ มุม ทั้งด้านความเสียสละ ความทุ่มเท การทำงานเป็นทีม การรับมือกับความเจ็บป่วยรูปแบบต่างๆ รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ ทั้งระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ด้วยกันเอง และระหว่างแพทย์กับคนไข้ นับเป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ให้ความรู้สึกแบบฟีลกู๊ดและอบอุ่นมากๆ

รีวิวซีรีย์ The Good Doctor น่าดู

รีวิวซีรีย์ The Good Doctor เรื่องย่อ

จากที่ผมได้ ดูหนังฟรี มานั้นมันเป็นเรื่องของ ดร. ชอน เมอร์ฟีย์ (Freddie Highmore) ชายหนุ่มที่เป็นโรคออทิสติก ที่ทำให้เขามีปัญหาในการสื่อสารและเข้าสังคม เขาเคยเสียพี่ชายไปตั้งแต่เด็ก และนั่นเป็นสาเหตุให้เขาอยากจะเป็นศัลยแพทย์

Dr. Shaun Murphy เขานั้นเติบโตมาด้วยการดูแลของ Dr. Aaron Glassman (Richard Schiff) ซึ่งเขานั้นได้เป็นถึง ประธานของโรงพยาบาล ในที่สุดเมื่อชอนสำเร็จการศึกษา แววในเชิงการวินิจฉัยโรคที่ถูกพบเห็นโดยกลาสแมนมาโดยตลอด ทำให้เขาเลือกจะรับชอนเข้ามาเป็นศัลยแพทย์คนใหม่ ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยและความกังขาในความสามารถที่จะทำงานร่วมกับแพทย์และพยาบาลร่วมที่ทำงาน

แล้วตัวพระเอกของเรื่องก็ได้ร่วมทำงานกับ ดร.แคลร์ บราวน์ (Antonia Thomas จากซีรีส์เรื่อง Lovesick และ Misfits) หมอสาวที่เขาจะได้ทำงานใกล้ชิดที่สุด เป็นคนที่น่าจะเข้าใจความเป็นเขาได้มากที่สุด มี ดร. นีล เมเลนเดซ (Nicholas Gonzalez จากซีรีส์เรื่อง ‘Narcos’) เป็นหมอหัวหน้าทีม ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าแผนกอย่าง ดร.มาร์คัส แอนดรูว์ (Hill Harper จากซีรีส์เรื่อง ‘CSI:NY’ และ ‘Limitless’) ผู้ที่อยากจะเป็นประธานมาคุมอีกที

นอกจากนี้ The Good Doctor พากย์ไทย พระเอกเองก็ยังมีสาวห้องข้างๆ เป็นสาวสวย ลีอา (Paige Spara จากซีรีส์เรื่อง ‘Kevin from Work’) อีกด้วย ด้วยอาการออทิสติกของเขา ชีวิตในโรงพยาบาลคงไม่ง่ายกับชอนเท่าไหร่นัก แต่ทุกอย่างก็ต้องเรียนรู้กันไปนั่นแหละน่า

รีวิวซีรีย์ The Good Doctor สนุก

รีวิวซีรีย์ The Good Doctor บทวิจารณ์

ในเชิงซีรีส์คุณหมอนั้น ปกติก็จะดูซีรีส์จากเกาหลีเสียเป็นส่วนใหญ่ มีครั้งนี้ที่จะได้มานั่งดูซีรีส์หมอของฝรั่งเขาสักที แถมยังรีเมกจากเกาหลีซะอีก กลิ่นเกาหลีจึงล่องลอยอบอวลอยู่ในซีรีส์อเมริกันเรื่องนี้ สำหรับผมแล้ว นี่เป็นครั้งแรกสำหรับพล็อตนี้ เพราะเวอร์ชั่นเกาหลี (หรือแม้แต่ญี่ปุ่น) ผมก็ยังไม่ได้ลิ้มรสมาก่อนเลยนะครัช สามมาไปรับชม รีวิวซีรีย์ฝรั่ง ต่อได้ที่นี่คับ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ท่านผู้ชม The Good Doctor ทุกตอน เข้าใจถึงตัวของพระเอกนั้น ก็เพราะการเล่าเรื่อง โดยเฉพาะการเล่าเรื่องราวในอดีตของหมอออทิสติกคนนี้ สลับกันไปกับเหตุการณ์ปัจจุบัน หลายครั้งที่คนดูได้รับรู้ว่า พฤติกรรมบางอย่างมันเกิดจากการจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ทำให้คนดูได้เห็นและเข้าใจที่มาที่ไปของพฤติกรรมต่างๆ ของชอน ได้ทำความรู้จักกับเขา พร้อมๆ กับได้มองเห็นการปรับตัวของหมอคนหนึ่งที่มีบุคลิกภาพแตกต่างจากคนทั่วไป

การที่เขาเป็นออทิสติกจะทำให้เขามีปัญหาอย่างไรบ้างทั้งในและนอกโรงพยาบาล แม้จะทำให้มีความสามารถสูงในการจดจำข้อมูลในหัว สังเกตอาการและวินิจฉัยโรค แต่ก็ทำให้ค่อนข้างจะดูแปลกแยกไปคนอื่นอยู่สักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการพูดจาไม่ถูกกาละเทศะ และไม่ค่อยเข้าใจจิตวิทยาการเป็นหมอสักเท่าไหร่ ทำให้หมอบางคนตั้งแง่ ไม่ยอมรับ แต่อยู่ๆ ไป ความเก่งกาจที่แสดงออกมาไม่หยุดหย่อน เขาก็จะได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่หลายพฤติกรรมอาจเป็นปัญหาที่ผู้ร่วมงานไม่เข้าใจ แม้แต่ญาติคนไข้เอง บางทีก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่า ทั้งเพื่อนหมอ เพื่อนพยาบาล และเหล่าคนไข้คงต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจเขาไป ส่วนเขาเองก็พยายามเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อจะเป็นคุณหมอที่ดี และนั่นก็ทำให้ผู้ชม รีวิวซีรีย์ฝรั่งน่าดู คอยเป็นกำลังใจให้หมอชอน

รีวิวซีรีย์ The Good Doctor นักแสดงนำ

Dr. Shaun Murphy รับบทโดย Freddie Highmore

Steve Murphy รับบทโดย Dylan Kingwell

Dr. Aaron Glassman รับบทโดย Richard Schiff

Dr. Marcus Andrews รับบทโดย Hill Harper

Dr. Neil Melendez รับบทโดย Nicholas Gonzalez

Dr. Claire Browne รับบทโดย Antonia Thomas

Lea Dilallo รับบทโดย Paige Spara

ความรู้สึกหลังดูซีรีย์ The Good Doctor

สิ่งที่เป็นเหมือนๆ กันกับซีรีส์แนวคุณหมอทั่วๆ ไป นั่นก็คือ ส่วนหนึ่งจะเป็นเคสยากๆ ที่พร้อมจะเข้ามาให้แก้ได้ตลอดเวลา ซีรีส์จึงมักจะเดินเรื่องด้วยการมี 2-3 เคสในเวลาเดียวกัน โดยมีหมอออทิสติกที่มักจะทำสิ่งชวนประหลาดใจ ความมุ่งมั่นในการรักษา ความช่างสังเกตและวินิจฉัย ทำให้หลายครั้งก็ดูเกินเลย แต่ก็กลับกลายเป็นสิ่งถูกต้องไปอย่างคาดไม่ถึง

นอกเหนือจากการเล่าเรื่องของหมอออทิสติกที่สื่อสารไม่เก่งจนคนดูนั่งขำอย่างอารมณ์ดีแล้ว รีวิวซีรีย์ฝรั่งน่าสนใจ ก็ยังเล่าถึงการปรับตัวของหมอผู้แตกต่างที่ไม่ได้รับการยอมรับในทีแรก เล่าถึงการปรับตัวในการดูแลคนไข้และญาติคนไข้ ไม่พอ เขายังเล่าไปถึงความคิดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะในหมู่ญาติคนไข้ด้วยกันเอง หรือในหมู่คุณหมอด้วยกัน น่นอนว่า ถ้าเอาไปเทียบกับซีรีส์เกาหลี เรื่องราวจะดราม่ากว่านี้มาก อาจชวนอินจนต้องน้ำตาไหลไปหลายหยด แต่ที่นี่ ไม่เน้นฟูมฟาย เน้นความเข้าใจเสียมากกว่า

ด้วยความที่ตัวหนังพยายามจะชี้เป้าไปในการเล่าเรื่องการรักษาคนในโรงพยาบาลที่มีหมอคนหนึ่งเป็นโรคออทิสติก แถมตอนหนึ่งก็ใช้เวลาเพียง 40-42 นาที การเดินเรื่องจึงไม่เยิ่นเย้อ [จนอาจจะดูห้วนไปบ้างในบางที] บทจึงไม่เน้นไปที่ความรักกุ๊กกิ๊กให้เนิ่นนานนัก เน้นไปที่การวินิจฉัย การรักษา การตอบโต้และปรับตัวปรับใจของหมอชอน แต่ละตอนจึงกระชับ รู้สึกมันสนุกและผ่านไปไว

สิ่งที่สำคัญก็คือ งานรักษาคนไข้มีเรื่องของร่างกายคนที่ยากสำหรับคนทั่วไปจะเข้าใจได้ทั้งหมด เขาก็เลยใส่ CG ของสิ่งที่ ดร.ชอนคิดและจินตนาการในหัวให้ออกมาเป็นภาพ เสริมสร้างความเข้าใจให้คนดูทันความคิดของตัวละคร

ซีรีส์เรื่อง The Good Doctor เพิ่งมีใน Netflix เพียง 3 ซีซัน แต่เท่าที่เห็น ตอนนี้มีข้อมูลว่าซีรีส์ยาวไปถึงซีซันที่ห้าเรียบร้อยแล้ว เคสใหม่ๆ ยังคงมีกันเข้ามาได้เรื่อยๆ กับหมอศัลย์คนนี้สวมบทบาทโดย Freddie Highmore ที่แสดงเป็นคนมีอาการออทิสติกได้น่ารักน่าชัง ใครสนใจก็หาเวลาว่างๆ มานั่งดูกันไปยาวๆ

ข้อมูลของซีรีย์ The Good Doctor

ชื่อซีรีส์: The Good Doctor / คุณหมอฟ้าประทาน

ผู้สร้าง: David Shore

ผู้เขียนบท:

นักแสดง: Freddie Highmore, Hill Harper, Richard Schiff, Antonia Thomas, Christina Chang, Paige Spara

แนว/ประเภท: Drama

ประเทศ: สหรัฐอเมริกา

ซีซัน1: 18 ตอน

ซีซัน 2: 18 ตอน

ซีซัน 3: 20 ตอน

ช่องทางรับชม: Netflix

สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: 3AD, ABC Signature, EnterMedia Content, Pico Productions, Shore Z Productions, Sony Pictures Television