รีวิวหนังSpider-Man Far From Home

รีวิวหนังSpider-Man Far From Home

หนังปิดท้ายเฟส 3 ต่อจาก Endgame ที่ทำมาเพื่ออธิบายเรื่องราวผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อจากตอนจบ รวมถึงมีหน้าที่สานต่อไปยังเฟส 4 และยังต้องเดินเส้นเรื่องชีวิตความเป็นสไปเดอร์แมนของตัวเองไปพร้อมกันอีกด้วย ซึ่งทั้ง 3 อย่างเรียกว่าเป็นหนังบังคับต้อง ดูหนังออนไลน์ พอๆ กับ Endgame เลยก็ว่าได้

ไม่งั้นคงดูภาคต่อไปไม่รู้เรื่องแน่ๆ ซึ่ง Spider-Man: Far From Home ก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีในระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่สมบูรณ์สักเท่าไหร่ เนื่องจากภารกิจที่ต้องเล่าเรื่องราวเยอะจนเกินกว่าโทนเรื่องวัยรุ่นของสไปดี้เวอร์ชั่นนี้จะไล่เก็บได้หมด

หนังจะพาเรามาทำความรู้กจักกับ Mysterio กับเหล่า Elemental อย่างไวตั้งแต่เริ่มฉากแรกเลย ซึ่งทำได้น่าสนใจ ทั้งชุด ความสามารถกึ่งเวทย์กึ่งวิทยาศาสตร์ ยิ่งด้วย “คาแรคเตอร์ลับลวงพราง” จากบทดั้งเดิมของตัวละครนี้ ก็ยิ่งทำให้คนดูจ้องโฟกัสจับผิดว่าจะใช่? หรือไม่? กับการเป็นตัวร้ายหรือตัวดี ซึ่งเจคเล่นได้อย่างดีเยี่ยม เอาจริงๆ หนังทำให้เห็นแบบที่ว่าได้ทั้งใช่ หรือไม่ใช่ ทั้งคู่เลยด้วยซ้ำครับ

สไปเดอร์แมน Far from Home ภาคนี้ Peter จะต้องเดินทางไกล โดยครั้งนี้เขาได้ไปที่ยุโรป ซึ่งเป็น school trip กับครูและเพื่อน ๆ ร่วมชั้นอีกกระจุกหนึ่ง แต่ระหว่างทริป เขาก็ต้องไปช่วย Quentin Beck หรือ Mysterio (Jake Gyllenhaal จาก Nightcrawler) ฮีโร่ใหม่จากอีกมิติหนึ่ง ปราบอสูรสี่ธาตุ ดินน้ำลมไฟ ซึ่งกำลังออกอาละวาด หนังแบ่งออกเป็น 3 องก์ 3 เมืองใหญ่หลัก ๆ ในยุโรป คือ Venice, Praque, และ London

Peter มีแผนในระหว่างที่ไปยุโรป เขาจะสารภาพความรู้สึกของเขาที่มีต่อ MJ (Zendaya จาก The Greatest Showman) แต่เขาก็มีอุปสรรคคือ คู่แข่งหัวใจอย่าง Brad (Remy Hii จาก Crazy Rich Asians) แถมยังถูก Nick Fury (Samuel L. Jackson จาก The Hateful Eight) และ Maria Hill (Cobie Smulders จาก Jack Reacher: Never Go Back) เรียกตัวไปทำงานด้วยอีกตลอดเวลา

และตัวเขาต้องหายตัวไปหายตัวมา ก็ได้เพื่อนรักของเขา Ned (Jacob Batalon) ก็คอยช่วยแก้ต่างและปิดบังตัวตนให้ Peter เหมือนเดิม โดยภาคนี้ Ned ก็มีแฟนสาวแล้วคือ Betty ส่วน Aunt May ป้าของเขา ก็กุ๊กกิ๊กกับ Happy อดีตผู้ช่วยของ Tony Stark อีกด้วย ส่วนจะสนุกมากแค่ไหน ไปชมกันได้ที่ ดูหนังฟรี นะครับ

ทอม ฮอลแลนด์ รับบทเป็น ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ / สไปเดอร์-แมน

ซามูเอล แอล. แจ็กสัน รับบท นิค ฟิวรี่ / เทโลส

เซนดายา รับบทเป็น มิเชล “เอ็มเจ” โจนส์

โคบี สมัลเดอส์ รับบทเป็น มาเรีย ฮิลล์ / โซเรน

จอน แฟฟโรว์ รับบทเป็น แฮปปี้ โฮแกน

เจบี สมูฟ รับบทเป็น มิสเตอร์เดลล์

เจคอบ บาตาลอน รับบทเป็น เน็ด ลีดส์

มาร์ติน สตาร์ รับบทเป็น มิสเตอร์ฮาร์ริงตัน

เมริซา โทเม รับบทเป็น เมย์ ปาร์คเกอร์

เจค จิลเลินฮาล รับบทเป็น เควนติน เบค / มิสเตริโอ

จุดที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของหนัง Spider-Man ฟาร์ ฟรอม โฮม พากย์ไทย รอบนี้คงเป็นการวางโทนคอเมดีจากผู้กำกับอย่าง จอน วัตส์ ที่แข็งแรงมากๆตั้งแต่ Spider-Man Homecoming (2017) ทั้งมุกที่ให้ตัวละครรอบตัวปีเตอร์ที่โรงเรียนอย่าง เนด ที่ได้ จาคอบ บาตาลอน มาปล่อยมุกฉบับเพื่อนตุ้ยนุ้ยสุดเนิร์ดที่คราวนี้ยิ่งได้โอกาสขโมยซีนหนักข้อเมื่อบทหนังให้เขาได้มีบทกุ๊กกิ๊กโรแมนติกกับ เบตตี ที่ยังได้ แองเกอเรีย ไรซ์ มารับบทลูกคุณหนูสุดแอ๊บ

แถมเคมีเข้ากันแบบเจอหน้าทั้งคู่ทีไรเตรียมฮาได้เลย รีวิวหนังบู้ฝรั่ง แถมในทริปยุโรปครั้งนี้ยังได้ตัวละครรุ่นครูอย่าง มิสเตอร์เบล รับบทโดย เจบี สมูฟ และมิสเตอร์แฮริงตัน รับบทโดย มาร์ติน สตารร์ มาคอยขโมยซีนด้วยบทครูที่ไม่อาจฝากผีฝากไข้อะไรได้เลยเรียกเสียงฮาไปหลายก๊ากอยู่ เสริมทัพด้วยซับพลอตแอบโรแมนติกระหว่างป้าเมย์คนสวย รับบทโดย มาริสา โทเมอิ กับ แฮปปี โฮแกน รับบทโดย จอน ฟาฟโร ที่ปีเตอร์แอบตะหงิดๆในความสัมพันธ์ทั้งคู่อยู่

นอกจากนี้หนังยังเต็มไปด้วยมุกตลกที่มาทั้งการใช้เพลง I will always love you ในฉากเปิดเรื่องแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยก่อนหนังจะเฉลยและสร้างความฮาเปิดม่านแบบคนดูไม่ทันตั้งตัว เรียกง่ายๆว่าใครหวังมาคลายเครียดก็จะได้ความฮาเป็นของแถมควบคู่ไปกับฉากแอ็คชั่นแน่นอน

สิ่งที่ทำให้หนัง สไปเดอร์แมน ฟาร์ ฟรอม โฮม นี้สนุกขึ้นกว่าภาคก่อน ก็คงจะเป็นบทที่พลิกผันไปมา จากเดิมที่เราเข้าตัวละครหนึ่งในทางหนึ่ง พอถึงอีกเวลา รีวิวหนังบู้ฝรั่งน่าดู หนังกลับเฉลยมาว่าที่เห็นนั่นเขาหลอกลวงเราอยู่ ผู้ชมจะโดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากไม่นั่งเดา เราจะสนุกกับเรื่อง แม้ตอนต้นที่รู้ตัวว่าถูกหลอกครั้งแรกนั้น จะรู้สึกว่า “มันได้เหรอวะ?”

ด้วยเนื้อหาที่อาจจะจุดที่แอบคิดและไม่เชื่อตั้งแต่แรกอยู่บ้าง แต่หนังเดินเรื่องไปเรื่อยๆ ทั้งความหลากรส กลเม็ดที่สร้างเซอร์ไพรส์ได้ตลอด มุกตลกชวนฮา ทั้งหนังยังพาไปซึ้งได้อีก บวกกับวิชวลบางอันที่ชวนอึ้ง ทำให้กลายเป็นรู้สึกได้ว่าหนังเรื่องสนุกเฉยเลย

นอกเหนือจากความพลิกผัน ที่ทำให้คาดเดาเรื่องราวได้ยากแล้ว รีวิวหนังบู้ฝรั่งน่าสนใจ หนังก็ยังมีมุกตลกชวนฮาจากหลายตัวละครที่ร่วมกันสร้าง ไม่ว่าจะเป็น แฮปปี้ (Jon Favreau มนุษย์เอนกประสงค์ แสดงใน ‘Chef’, ‘John Carter’ อำนวยการผลิตพร้อมทั้งพากย์เสียงใน ‘The Jungle Book’ และหนังซูเปอร์ฮีโร่มากมายหลายเรื่อง) ที่เข้าคู่กันได้ดีกับป้าเมย์ (Marisa Tomei) หรือคู่ใหม่ นายเนด (Jacob Batalon) ผู้มีรักปุบปับกับสาวน้อยเบตตี้ (Angourie Rice จาก ‘The Nice Guy’)

สไปเดอร์แมน ภาคนี้จบ คือมันก็สนุกนะครับแต่เรื่องการต่อสู้มันไม่ค่อยเท่าไหร่ดูเฉย ๆ ซะมากว่า ไม่ใช่ว่า CG ไม่ดีนะครับ CG ดีมากยังทำได้ดีไม่มีตกเหมือนเดิม อย่างที่บอกไปเนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะเป็นชีวิตของ ปีเตอร์ ซะมากกว่า ฉากที่ผมชอบสุด ๆ ในภาคนี้ก็เป็นตอนจบครับฉากต่อสู้สนุกพอตัวอยู่มันส์มาก แต่เนื้อเรื่องก็ยังคงมีความสนุกอยู่

ชื่อภาพยนตร์: Spider-Man: Far from Home / สไปเดอร์-แมน ฟาร์ ฟรอม โฮม

ผู้กำกับภาพยนตร์: Jon Watts

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Chris McKenna, Erik Sommers

นักแสดง: Zendaya, Angourie Rice, Tom Holland, Jon Favreau, Samuel L. Jackson, Jake Gyllenhaal

แนว/ประเภท: Action, Adventure, Sci-Fi

เรท: ไทย/ , USA/PG-13

ความยาว: 129 นาที

อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1

สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Columbia Pictures, Marvel Studios, Pascal Pictures

วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 3 กรกฎาคม 2562