รีวิวหนังNo Time To Die007พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ

 

 

มาดูรีวิวหนังสุดมันกับผม วันนี้ผมจะมารีวิวหนังเรื่อง No Time To Die 007พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณ ถึงเวลาที่สายลับสุดหล่อสุดเท่จะกลับมาปฏิบัติภารกิจบนจอยักษ์กันอีกครั้ง แล้วเราจะพลาดได้อย่างไร แถมครั้งนี้ยังเป็นครั้งสุดท้ายที่ พ่อหนุ่มเท่ แดเนียล เครก จะสวมบทบาทนี้หลังเขาใช้เวลายาวนาน 15 ปี ตั้งแต่ Casino Royale ในปี 2006 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการสั่งลา นายแพทจึงขออาสาเดินเข้าโรงแล้วออกมาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน กับ ‘No Time to Die ชื่อไทยจำไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ นั่นเอง

ครั้งนี้ ผู้กำกับที่กุมบังเหียนทิศทางต่างๆ ของหนังจะเป็น Cary Joji Fukunaga คนที่เคยกำกับทั้งหนังอย่าง ‘Beasts of No Nation’ (2015) และ Jane Eyre กำกับทั้งซีรีส์อย่าง ‘Maniac’ และ ‘True Detective’ แล้วจะไม่ให้เขาเหมาะสมที่จะมากำกับหนังสายลับอย่าง 007 ได้อย่างไรกัน

จนถึงตอนนี้ในซีรีส์เจมส์ บอนด์ ไม่มีนักแสดงของบอนด์คนใดที่เคยได้รับการอนุญาตให้ออกจากตำแหน่งที่เหมาะสม ในฐานะ 007 No Time to Die ในกรณีส่วนใหญ่เช่นในกรณีของ Sean Connery Roger Moore และ Pierce Brosnan พวกเขาจากไปจากการปฏิบัติหน้าที่จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตโดยปราศจากความยิ่งใหญ่อลังการ แต่สำหรับ George Lazenby และ Timothy Dalton ขาของพวกเขาถูกตัดออกจากข้างใต้ก่อนที่พวกเขาจะได้รับบทตามที่พวกเขาต้องการ ผู้ชายทุกคนมีความสุขในระดับต่างๆ ของความสำเร็จในการเล่นบทนี้ แต่ไม่มีใครได้รับการบอกลาอย่างเหมาะสมมาก ๆ เลยละครับ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนังNo Time To Die 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ

 

ซึ่งนำเราไปสู่นักแสดงบอนด์อย่างเป็นทางการคนที่ 6 ของเราอย่าง Daniel Craig ภาพยนตร์ของบอนด์ผู้ดำรงตำแหน่งนี้มากกว่ารุ่นก่อนใดๆ ส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยหลีกเลี่ยงวิธีการเล่าเรื่องเป็นตอน ๆ เพื่อสร้างจักรวาลที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความพยายามสร้างลำดับขั้นอย่างหนักใน Spectre ปี 2015

ในขณะที่การเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนั้นทำให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมากของ Daniel Craig ที่จะกลับมาแสดงอีกครั้ง ตอนนี้เรามี No Time To Die ซึ่งได้รับการส่งเสริมอย่างกล้าหาญในฐานะพันธบัตรสุดท้ายของ Daniel Craig ครับ

หลังจากภาพยนตร์ได้ล่าช้าไปหลายปี ตอนนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อมที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพื่อให้ทุกคนได้เห็นในที่สุด ด้วยความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ในการสรุปเรื่องราวที่สร้างขึ้นในภาพยนตร์ 4 เรื่องก่อนหน้า อย่างน้อยที่สุด การเข้าไปรับชมภาพยนตร์สายลับอังกฤษเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องหนึ่งในความทรงจำอย่างดีครับ ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนังNo Time To Die 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ

 

รีวิวหนังNo Time To Die007พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ

 

ภาคนี้ เล่าเรื่องโดยเริ่มที่ชีวิตของสายลับ 007 เจมส์ บอนด์(Daniel Craig)ที่ลาวงการหลังเปิดโปงองค์กรลับSpectreในภาคก่อน เขาหันไปมีชีวิตธรรมดาแสนสงบสุขอยู่กับคนรักอย่าง ดร.แมเดลีน สวอน(Léa Seydoux)ที่ยังคงเก็บงำความลับโคตรสำคัญบางอย่างแม้กับตัวเจมส์เอง ขณะที่ M (Ralph Fiennes) ก็ปลดเขาจากรหัส 007

และส่งต่อมันให้กับสายลับสาวผิวสีคนใหม่ นาม โนมี (Lashana Lynch) แต่แล้วก็มีเหตุให้เขาต้องกลับมาเมื่อได้รับรู้ว่า มีคนขโมยข้อมูลอาวุธชีวภาพออกไปและกำลังพัฒนามันขึ้นซึ่งเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อชีวิตของผู้คนนับสิบล้าน

วายร้ายครั้งนี้เป็น ลุตซิเฟอร์ วาฟิน (Rami Malek) เขาคือคนที่อดีตเกี่ยวพันกับคนใกล้ตัวของเจมส์ บอนด์ และปัจจุบัน เขาคือคนทำให้ 007 คนเดิมต้องหวนกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง ครั้งสุดท้ายที่เราได้เห็นเจมส์ บอนด์ได้เข้ามาในฉาก เขาได้ขี่ม้าออกไปในยามพระอาทิตย์ตกดินอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีดร. แมดเลน สวอนน์ ทิ้งหน่วยสืบราชการลับ MI6 ไว้เบื้องหลัง

ตอนนี้จะเป็นช่วงสนุกกับชีวิตในฐานะตัวแทน 00 ที่เกษียณแล้ว ดูเหมือนทุกอย่างในโลกจะดี แม้ว่าอดีตสายลับจะไม่สามารถสลัดนิสัยมองข้ามไหล่ของเขาไปทุกที่ที่เขาไป เมื่อการมาเยือนหลุมศพของเวสเปอร์ ลินด์ ปลดปล่อยความโกรธของ SPECTRE บอร์นและแมเดลีนต้องพลัดพรากจากกันอย่างเจ็บปวด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถูกทำลายล้างด้วยการทรยศครั้งสุดท้าย ดูหนังออนไลน์

 

 

สำหรับ ‘No Time To Die ภาคนี้เล่าเรื่องถึงเจมส์ บอนด์ ที่วางมือจากการเป็นนักสืบไปแล้ว และใช้ชีวิตอยู่ที่จาไมกา พร้อมกับคนรักอย่าง ‘ดร. เมเดอลีน’ (Léa Seydoux) จากภาคที่แล้ว ‘Spectre’ (2015) ที่ในภาคนี้จะได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่แบบชัดเจนยิ่งขึ้น แต่สายลับบอนด์กับ ดร. เมเดอลีนที่กำลังพักผ่อนอยู่ที่อิตาลีกลับอยู่สุขได้ไม่นาน

เพราะ ‘เฟลิกซ์ เลเตอร์’ (Jeffrey Wright) เพื่อนเก่าจากหน่วยซีไอเอ มาขอให้เขาไปช่วยตามหานักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซีย ที่ถูกลักพาตัวไปพัฒนาอาวุธเชื้อโรคร้ายแรง “โปรเจกต์ เฮราคลีส” (Project Heracles) ที่ ‘ซาฟิน’ (Rami Malek) เป็นเจ้าของ

ในขณะที่เจมส์ บอนด์ ก็ต้องแก้ปัญหาหัวใจไปด้วย เมื่อบอนด์พบว่า ดร. เมเดอลีน จริง ๆ แล้วมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ แถมเมื่อกลับมารับหน้าที่ ก็ยังโดน ‘โนมิ’ (Lashana Rasheda Lynch) สายลับสาวรุ่นใหม่แย่งรหัส 007 ไปใช้อีก บอนด์ในฐานะนักสืบไร้รหัส จึงต้องกลับมาทวงบัลลังก์นักสืบ 007 ตัวจริง พร้อมกับแก้ปมในใจบางอย่าง ไขความลับที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาเนิ่นนานไปพร้อม ๆ กับการทำลายโปรเจกต์เชื้อโรคอันตรายให้สิ้นซาก ดูหนังฟรี

 

รีวิวหนังNo Time To Die 007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ

 

ความรู้สึกหลังดูหนังNo Time To Die007พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ

 

ภาพรวมของหนังก็อาจพูดได้ว่า สมกับทุนสร้างกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ จนทำให้หนังติดอยู่ใน 20 อันดับหนังที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดไปแล้ว เหมือนอยากปิดจบให้แกแบบจัดทุกอย่างให้มีทุกอย่างที่หนังเจมส์บอนด์เคยมีมา เดินทางไปถ่ายทำในหลายประเทศเต็มไปด้วยสถานที่อันสวยงามน่าจดจำ มีทั้งแบบถ่ายทำในพื้นที่จริงเลย และสร้างฉากขึ้นมาใหม่อย่างฐานทัพของตัวร้ายที่ดูลึกลับแปลกตา

ใครที่กังวลว่าหนังความยาวเกือบสามชั่วโมงเรื่องนี้จะทำให้หลับนี่ไม่ต้องกลัวครับ ฉากแอ็คชั่นนี่มีเสริฟให้ชมอยู่ต่อเนื่องเรื่อยๆ ทั้งเรื่อง ส่วนด้านการออกแบบฉากแต่ละฉากทั้งดูอลังการและน่าจดจำ อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ มีไม่ขาดพร้อมดูใช้งานได้จริง ไม่ล้ำหลุดโลกจนเกินไปเสื้อผ้าหน้าผมต่างถูกออกแบบมาให้แต่ละตัวละครน่าจดจำ เข้ากับบุคลิกและโดดเด่นที่สุดก็คือชุดของ บอนด์ เองที่ไม่ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้าแบบไหนก็ดูเท่ / เนี๊ยบ / ดิบ / อยู่เสมอ สมกับเป็น บอนด์ เวอร์ชั่นนี้จริงๆ รีวิวหนังออนไลน์

 

 

และต้องยอมรับว่าหนังเล่นใหญ่มากด้วยพล็อตเรื่องที่ว่า บอนด์ มีลูกพร้อมกับการสละชีวิตตัวเองแล้วกลายเป็นตำนานเล่าขาน ฟังดูแล้วมันดูเป็นบทสรุปที่ดีในการรับบท บอนด์ มาอย่างยาวนานถึง 15 ปีของแดเนียล เคร็ก ซึ่งมันควรจะเป็นหนัง 007 ที่ดีที่สุดของตระกูลซึ่งทุกคนคงจะคิดแบบนี้ เพราะหนังมันพาเรามาทางนี้มาพร้อมกับดราม่าดีๆ การส่งอารมณ์ที่ดีเยี่ยมเรียกน้ำตาได้อีก สรุปแล้วถือว่าเป็นงานเลี้ยงส่งท้าย แดเนียล เคร็กผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำให้หนังสายลับนี้ ให้มีโมเดิร์นขึ้นมามีมิติมีความหลากหลายและมีชีวิตมากขึ้น